รายได้ RSโตพุ่งสวนกระแส ธุรกิจคอมเมิร์ซโตกระฉูด ทำยอดขายนิวไฮ
แม้ต้องเผชิญความท้าทาย ภายใต้สภาวะปกติใหม่ หรือ New Normal แต่ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ อาร์เอส กรุ๊ป กลับทำรายได้โตแรงสวนกระแส จากผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2563 ที่สามารถทำยอดขายนิวไฮจากธุรกิจคอมเมิร์ซถึง 586.2 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 17% จากไตรมาสก่อนหน้า
ซึ่งมาจากปัจจัยหลักที่สำคัญ คือการขับเคลื่อนธุรกิจผ่านโมเดล Entertainmerce ที่ชัดเจน และการบริหารต้นทุนของธุรกิจคอมเมิร์ซและธุรกิจสื่ออย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นของบริษัทฯ สูงถึง 53% พร้อมเผยแผนครึ่งปีหลัง เตรียมเปิดตัว Star Commerce และขยายสินค้าเข้าสู่ตลาดแมสเพื่อดันยอดขายให้โตก้าวกระโดดอีกครั้ง
นายวิทวัส เวชชบุษกรประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “แม้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ปี 2563 จะได้รับผลกระทบทั้งไตรมาสจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ต่อเนื่องมาจากปลายไตรมาสแรก แต่ อาร์เอส กรุ๊ป กลับสร้างผลงานโดดเด่น จากความสำเร็จในการใช้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce และการปรับแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจได้รวดเร็วสอดคล้องกับสถานการณ์ ส่งผลให้ RS ทำรายได้และมีผลประกอบการที่ดีขึ้น จากธุรกิจคอมเมิร์ซในไตรมาส 2 ของปี 2563 สูงที่สุดตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจมากถึง 586.2 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 8% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และกว่า 17% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 108.6 ล้านบาท
ทั้งนี้ รายได้ RS จากธุรกิจคอมเมิร์ซ มาจากการขายสินค้าผ่าน RS Mall แพลตฟอร์มที่จำหน่ายสินค้าในหลากหลายช่องทาง ทั้งสินค้าของ บริษัท ไลฟ์สตาร์ จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือ และสินค้าจากพันธมิตร ผ่านช่องทางออนแอร์ ทั้งช่อง 8 และช่องพันธมิตรผู้นำทีวีดิจิทัลรายอื่นๆ วิทยุ และสื่อออนไลน์ รวมไปถึงการจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม จากความสำเร็จของการขยายช่องทางการขาย ส่งผลให้ปัจจุบัน RS Mall มีผลประกอบการที่ดี และมีฐานข้อมูลลูกค้า 1.4 ล้านราย บริษัทฯ จึงมุ่งเน้นการบริหารข้อมูลลูกค้าเป็นสำคัญ ทั้งการนำระบบ Predictive Dialing System (PDS) เข้ามาพัฒนาระบบเทเลเซลล์ให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มุ่งดูแลสุขภาพ และโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างแม่นยำ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดแคมเปญ “RS Mall Mid Year Super Sale” ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทำให้รายได้ทั้งจากกลุ่มลูกค้าใหม่และกลุ่มลูกค้าเดิมเติบโตเพิ่มขึ้น โดยโปรดักส์แชมป์เปี้ยนที่ทำรายได้ให้ RS สูงสุด ได้แก่ เอส.โอ.เอ็ม. คอร์ดี้ ทิเบต แอนด์ ภูฏาน, เอส.โอ.เอ็ม. ไอ-แคร์ และ เอส.โอ.เอ็ม. ซีแมคซ์ ซึ่งทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ เป็นสินค้าในกลุ่มดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพสูงและตอบโจทย์สถานการณ์ในปัจจุบัน”
ด้าน นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “อาร์เอส กรุ๊ป มุ่งดำเนินธุรกิจในรูปแบบ Entertainmerce และเข้าสู่ธุรกิจคอมเมิร์ซอย่างเต็มตัว ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกแพลตฟอร์ม ทั้งสื่อโทรทัศน์ วิทยุ และออนไลน์ ผ่าน RS Mall และ COOLanything โดยในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ เน้นการดำเนินกลยุทธ์เชิงรุกที่จะช่วยให้ผลประกอบการของ RS ดีขึ้น ซึ่งประกอบไปด้วย
1) การพัฒนาช่องทางออนไลน์ให้เข้าถึงและตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง จากการพัฒนาเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน COOLISM ที่มีจำนวนผู้ฟังกว่า 2 ล้านรายต่อเดือน รวมถึงการพัฒนาและทำการตลาดผ่านเว็บไซต์ RS Mall ที่มีผู้ใช้งานกว่า 4 แสนรายด้วย
2) วางแผนนำเสนอผลิตภัณฑ์ในรูปแบบใหม่ที่ผสานเข้าไปกับเนื้อหารายการ ผ่านทางช่อง 8 อย่างเต็มรูปแบบ
3) เพิ่มความหลากหลายของประเภทผลิตภัณฑ์ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทไลฟ์สตาร์ ที่เจาะเข้าสู่แมสมาร์เก็ต อาทิ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม Functional RTD (Ready-to-drink) และผลิตภัณฑ์ใหม่ที่คิดค้นร่วมกับศิลปินดาราชื่อดัง เพื่อตอบโจทย์กลุ่มแฟนคลับ หรือเรียกว่า สตาร์ คอมเมิร์ซ
นอกจากที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว อาร์เอส กรุ๊ป กำลังเร่งสปีดเพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจคอมเมิร์ซแบบก้าวกระโดด โดยจะทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และเปิดเผยความก้าวหน้าในด้านการดำเนินงานของแต่ละธุรกิจในเครือตลอดช่วงครึ่งปีหลังอีกด้วย”
อาร์เอส กรุ๊ป เชื่อมั่นว่าพลังของสื่อ และการทำงานอย่างสร้างสรรค์ในคอนเซปต์ Storytelling Commerce ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญและจุดแข็งของบริษัทฯ จะสามารถสร้างปรากฎการณ์ใหม่ในด้านยอดขาย ทั้งในหมวดสินค้าที่มี Functional Benefits และ Emotional Value สูงได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ของ RS บนธุรกิจคอมเมิร์ซเติบโตทำนิวไฮได้อย่างต่อเนื่อง