“แนนจัดรายการก็มีวันที่แย่ วันที่ข้างนอกยิ้มข้างในร้องไห้ วันที่หมาตาย วันที่แนนหย่ากับแฟน ไม่มีใครรู้หรอกเพราะว่าแนนก็ยังยิ้มอยู่หน้าไมค์ ‘น้ำขุ่นอยู่ในน้ำใสอยู่นอก’ นี่คือหลักการในการทำงาน เราไม่จำเป็นต้องเอาความทุกข์ไปบอกใคร เราจัดการกับความทุกข์ของเราเองได้”
เคยมีคำถามในใจว่าถ้าเราต้องเจอกับปัญหาที่ถาโถมจนทุกข์สุดแสนสาหัส เราจะมีวิธีจัดการกับอารมณ์กับตัวเองอย่างไรไม่ให้กระทบกับการทำงานและคนรอบข้าง หากแต่กับผู้หญิงพลังบวกคนนี้ “แนน-กัญดา ศรีธรรมูปถัมภ์” คูลเจชื่อดังแห่ง COOLfahrenheit สถานีเพลงอันดับ 1 ของเมืองไทย ไม่เพียงแต่สามารถผ่านพ้นเรื่องราวร้ายๆ ในชีวิตไปได้เท่านั้น แต่ยังส่งต่อพลังความคิดบวกที่เอ่อล้นออกมาจากข้างในแบ่งปันความสุขไปให้ผู้ฟังแฟนคลับที่สามารถรับรู้และสัมผัสได้ถึงรอยยิ้มที่ซ่อนอยู่หลังไมค์
เล่าถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้พี่แนน-กัญดา เลือกอาชีพเป็นดีเจ
ดีเจแนน กัญดา กล่าวว่า “เพราะแนนชอบฟังเพลงตั้งแต่เด็กค่ะ เปิดวิทยุฟัง ชอบพี่ดีเจ เขียนจดหมายไปขอเพลงตั้งแต่สมัยประถม แล้วก็ซื้อเทปสะสมเรียงทุกอัลบั้มของศิลปินไว้ข้างฝาบ้าน ผูกพันอยู่กับเสียงเพลงจนโตขึ้นมาได้เรียนนิเทศศาสตร์ แต่ก็ไม่ได้มีความฝันอยากเป็นดีเจนะคะ แต่เรารู้ว่าเราชอบพูดชอบคุยชอบแสดงออก จนได้โอกาสสมัครเป็นดีเจจากคำแนะนำของ พี่โด๋ว-มรกต โกมลบุตร ว่าบริษัทที่ทำอยู่กำลังจะเปิดคลื่นใหม่และต้องการดีเจหน้าใหม่เสียงใหม่ไร้ประสบการณ์ ซึ่งแนนก็เลยไปสมัครแบบไม่มีความกลัวอะไรทั้งสิ้น คือลอง เพราะไม่ลองไม่รู้ แต่สมัครปุ๊บเค้ารับก็เลยได้เป็นดีเจมาตั้งแต่ปี 2540 จนถึงปัจจุบันนี้ 23 ปี ที่ไม่ได้ประกอบอาชีพอื่นเลย ได้อยู่กับเสียงเพลงที่ชอบมาตลอดกว่า 2 ทศวรรษค่ะ ถือว่าเป็นความโชคดีที่เราได้ทำในสิ่งที่รักเราก็เลยมีความสุขทุกวัน”
เทคนิคการจัดรายการ ที่ทำให้พี่แนน กัญดา เป็นดีใจในดวงใจมาถึงทุกวันนี้
“อันดับแรกเลยแนนมีความรู้สึกว่า แนนตกหลุมรักกับงานตัวเอง มีใครเคยเป็นมั้ยคะ? เหมือนเราตกหลุมรักกับผู้ชาย หรือคนๆ นี้ทุกวัน แนนไม่เคยรู้สึกว่าวันนี้ไม่อยากมาทำงาน แนนอยากทำงานเหมือนอยากไปเจอแฟนไปกินข้าวกับแฟนทุกวัน แนนออกมาทำงาน 20 กว่าปีก็ยังรู้สึกอย่างนี้ บางทีงานเยอะนะคะวันหนึ่งวิ่ง 4 งาน แล้วส่วนใหญ่วิทยุที่จัดจะเป็นงานสุดท้ายของแต่ละวัน บางทีตื่นตี 5-6 โมง ทำมาสารพัดแต่พอมาถึงตรงนี้เปิดไมค์ 5-4-3-2-1 แนนรู้สึกว่าโลกของแนนอยู่ตรงนี้ ความสุขมันอยู่ตรงหน้าค่ะ แนนก็จะยิ้มทุกครั้งที่เปิดไมค์ เลยทำให้คนที่เค้ารับฟังเค้ารู้สึกว่ายิ้มไปกับเรา มีความสุขไปกับเรา ถ้าถามว่าเทคนิคการจัดรายการคืออะไร แนนไม่มีเทคนิค แต่แค่รู้สึกว่าแนนส่งพลังบวกกับส่งความสุขจากข้างในออกไปข้างนอกอย่างนี้ในทุกๆ วัน จะไม่เหมือนเราทำการแสดงนะคะ ดีเจจะไม่เหมือนนักแสดงตรงที่เค้ามีบทว่าเราต้องสวมบทบาทเป็นคนนั้นคนนี้ แต่ดีเจคุณไม่สามารถเฟคเป็นคนอื่นได้คุณต้องเป็นตัวของตัวเอง เพราะฉะนั้นถ้าแนนเป็นคนเกรี้ยวกราด ขี้หงุดหงิด มันคงไม่สามารถพรีเซนต์ไปในภาพของคนหัวเราะง่ายอารมณ์ดีมีความสุขเวลาออกอากาศได้ เสน่ห์ของวิทยุคือคุณเป็นตัวของตัวเองมากๆ เพราะฉะนั้น คนก็จะสัมผัสได้ถึงความจริง ความเป็นตัวเรา แนนก็เลยคิดว่านี่แหละที่ทำให้เราอยู่ได้มาถึงทุกวันนี้” ดีเจแนน กัญดา อธิบายถึงความสุขจากการเป็นผู้ส่งพลังบวกสู่ผู้ฟัง
ความผูกพัน และเรื่องราวสุดประทับใจ ระหว่างคูลเจแนน-กัญดา กับแฟนคลับ
ดีเจแนน-กัญดา ศรีธรรมูปถัมภ์ กล่าวถึงเรื่องความประทับใจในอดีตว่า “สมัยก่อน 20 กว่าปีที่แล้วการติดต่อกับแฟนคลับมีแค่จดหมาย กับไปรษณียบัตร และถ้าเร็วสุดด่วนสุดคือแฟกซ์ขอเพลงแต่ก็จะเพียงผิวเผิน ถ้าที่เป็นแฟนคลับจริงๆ รู้จักเราเป็นการส่วนตัว เคยไปกินข้าว ทำกิจกรรมหรือเคยคุยกันมากกว่าการฟังผ่านวิทยุ ก็จะมีอยู่คนหนึ่งที่เค้าเรียกตัวเองว่า ‘นก ศรีธรรมูปถัมภ์’ คือจะเอานามสกุลแนนไปใช้และเรียกเราว่า ‘แม่แนน’ เค้าจะขอกำลังใจจากเราตลอด คุยกับเราจนทุกวันนี้ ถือว่าเป็นคนที่แนนดูแลด้านจิตใจมาตลอด 20 ปี”
“อีกคนคือน้องเก้า คนนี้เป็นแฟนคลื่น Z ของที่นี่ในตอนนั้น เค้าโทรเข้ามาบอก ‘ชอบพี่มากเลย มีขนมจะให้พี่ชิม แวะมาหาที่สถานีได้มั้ย?’ คนนี้เป็นแฟนคลับที่แนนให้เบอร์ว่า ‘001’ คือเป็นแฟนคลับจริงๆ ที่มีเบอร์โทรศัพท์เรา คือใกล้ชิดกับเรามากกว่าคนอื่น เป็นน้องสาวที่น่ารัก ชีวิตส่วนตัวเค้าเราก็ไปหมด งานศพคุณพ่อ งานเปิดร้าน เค้าไปเมืองนอกเราไปส่ง ทุกวันนี้เค้าทำงานอยู่ออสเตรียก็คุยกันทางไลน์ กลับมาปีละครั้งสองครั้งก็กินข้าว วันเกิดเค้าทุกปีเค้าจะมาหา แนนก็เลี้ยงข้าวเป่าเค้กให้ของขวัญ รวมความผูกพัน 20 ปีเหมือนกัน”
“สมัยก่อนแฟนคลับจะมาในรูปแบบของการปรึกษาปัญหาชีวิต ความรัก แต่ปัจจุบันแฟนคลับจะคุยกับแนนเรื่องปัญหาสุขภาพ (หัวเราะ) อาจเพราะเค้าเห็นว่าเราดูแลสุขภาพ และจะเป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊ก ไม่จำเป็นต้องมีเบอร์โทรศัพท์เราแล้ว เพราะคุยกันผ่านเฟซฯได้ อินบ็อกซ์ได้ นานๆ ทีก็มิตติ้งกัน 1 รอบ และเค้าก็เป็นแฟนคลับได้หลายคนแฟนคลับนักร้องแฟนคลับดีเจแล้วแต่ความชอบของเค้า loyalty ก็จะไม่เหมือนคนรุ่นเก่าที่รักใครก็รักคนนั้น 20 ปี ถ้าถามว่าแฟนคลับเหนียวแน่นของแนนเยอะมั้ย? ก็ไม่เยอะ แต่เป็นแบบคุณภาพอยู่กันยาวๆ 20 ปี และส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง กับสาว 2 ค่ะ (หัวเราะ)” ดีเจแนน-กัญดา ศรีธรรมูปถัมภ์กล่าว
ฝากข้อคิดถึงน้องๆ ที่มีความฝันอยากเป็นดีเจที่ประสบความสำเร็จเหมือนพี่แนน
ดีเจแนน กัญดา กล่าวว่า “คนยุคนี้สามารถที่จะทำอาชีพในฝันตัวเองได้ง่ายนะคะ เพราะมีช่องทางโซเชียลจนใครก็สามารถเป็นดีเจ เป็น Influencer, Youtuber, Blogger ได้หมด แต่ก่อนกว่าจะเป็นดีเจได้ ต้องทำเดโม่กันเป็นร้อยๆ ตลับส่งแล้วรอโอกาส หรือต้องแข่งขันยากมากที่จะได้เป็น แต่สมัยนี้คุณทำคลิปยูทูปคุณเป็นได้ทั้งดีเจเห็นทั้งภาพทั้งเสียง คือถ้ามีความฝันอย่านั่งรอโอกาส คุณสร้างโอกาสของคุณเอง คุณทำเลยจัดวิทยุใน podcast ก็ได้ ไม่ต้องเสียตังค์เลย แค่คุณมีของมีใจรักมีเครื่องมือมีโอกาสอยู่ในมือ ทำเลยค่ะ”
“ยูทูปเบอร์อย่าง ‘เจ๊น้ำ’ ไลฟ์ขายของครั้งแรกมีคนดู 3 คน ทุกวันนี้คนดูคลิปหนึ่งเป็นล้าน ‘ฮาซัน’ อาหารทะเลก็เริ่มจากติดลบจนขายได้คืนเป็นล้าน แค่คุณอย่าท้อ และอย่าสร้างกำแพงให้กับความฝันของตัวเอง ฝันอยากทำอะไรขอให้ตั้งใจฝึกฝน ทำไปไม่ต้องหวังว่าจะดังหรือจะรวย แต่ทำแล้วมีความสุขภูมิใจในตัวเอง เท่านี้คือรางวัลแล้วสำหรับแนน ค่าตอบแทนในการทำงานแต่ละวันคือความสุขกับการจบงานนั้นๆ แล้วประเมินตัวเองทุกวัน อย่าหยุดพัฒนาตัวเอง อย่าเก็บความฝันนั้นด้วยข้อจำกัด และเลือกที่จะพรีเซนต์สิ่งที่ดี เพราะมันก็มีความไม่ประสบความสำเร็จบ้าง แนนจัดรายการก็มีวันที่แย่ วันที่ข้างนอกยิ้มข้างในร้องไห้ วันที่หมาตาย วันที่แนนหย่ากับแฟน ไม่มีใครรู้หรอกเพราะว่าแนนก็ยังยิ้มอยู่หน้าไมค์ ‘น้ำขุ่นอยู่ในน้ำใสอยู่นอก’ นี่คือหลักการในการทำงาน เราไม่จำเป็นต้องเอาความทุกข์ไปบอกใคร เราจัดการกับความทุกข์ของเราเองได้ ก็เหมือนกับการทำงานหรือความฝัน ไม่มีใครประสบความสำเร็จตั้งแต่วันแรก แต่ว่าคุณจะทิ้งหรือคุณจะท้อกับอุปสรรค คนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่ไม่ย่อท้อกับอุปสรรคและปัญหาระหว่างทางค่ะ” ดีเจแนน-กัญดา ศรีธรรมูปถัมภ์ กล่าวทิ้งท้ายถึงแนวคิดในการทำงาน วิธีจัดการความทุกข์และอุปสรรคในชีวิต
