Back

‘เฮียฮ้อ’ ตั้งเป้า อาร์เอส กรุ๊ป ปี 2024 รายได้ทะลุ 4.4 พันล้านบาท

ส่งต่อข่าวนี้
  • Facebook
  • Twitter
  • Line
  • Copy Link

‘เฮียฮ้อ’ ตั้งเป้า อาร์เอส กรุ๊ป ปี 2024 รายได้ทะลุ 4.4 พันล้านบาท

ปลดล็อกศักยภาพ ข้ามทุกขีดจำกัดด้วย 4 ธุรกิจแกร่ง

พร้อมปรับทัพผู้บริหาร มุ่งมั่นปั้น S-Curves ใหม่

บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ อาร์เอส กรุ๊ป ภายใต้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce เดินหน้ากลยุทธ์ Unlock Value ปลดล็อกศักยภาพทุกธุรกิจของ อาร์เอส กรุ๊ป ผ่านโครงสร้างใหม่ใน 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ RS Music, RS Multimedia & Entertainment, RS LiveWell และ RS pet all โดยยังคงมุ่งมั่นเป็น “Life Enriching” สำหรับผู้คนและสัตว์เลี้ยง ไปพร้อมกับการยกระดับการทำงานในแต่ละธุรกิจให้มีความคล่องตัวสูงขึ้น เพื่อสร้างรายได้เพิ่มและต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งจะนำไปสู่การปั้น S-Curves ใหม่ ภายใต้การบริหารของ 4 หญิงเก่งมากประสบการณ์ ที่พร้อมจะขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตไปตามเป้าหมายที่ 4,400 ล้านบาท ในปี 2567

คุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ตลอดปี 2566 ที่ผ่านมา อาร์เอส กรุ๊ป มีการขยาย Ecosystem ทั้งธุรกิจมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนท์ และธุรกิจคอมเมิร์ซ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กร โดยมุ่งมั่นในการยกระดับทุกมิติการใช้ชีวิตของลูกค้าผ่านทุกธุรกิจในเครือ ที่ผ่านมา เรามีการปรับโครงสร้างการทำงานในทุกธุรกิจให้มีความคล่องตัวขึ้น รวมถึงเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจในหลากหลายรูปแบบตามลักษณะเฉพาะของแต่ละธุรกิจ ในปีนี้ เราเดินหน้าการทำงานภายใต้โครงสร้างใหม่ที่ชัดเจนขึ้น ด้วยการปรับกลยุทธ์ของแต่ละธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์อยู่เสมอ ตอกย้ำให้เห็นว่า อาร์เอส กรุ๊ป เป็นองค์กรที่ไม่เคยหยุดนิ่ง และพร้อมเดินหน้ามุ่งสู่การเป็น ‘Life Enriching’ ที่ไม่ใช่แค่การเติมเต็มความสุขและความต้องการของผู้บริโภคด้วยผลิตภัณฑ์และบริการเท่านั้น แต่ยังต้องการ ‘ยกระดับในทุกมิติการใช้ชีวิต’ ของลูกค้า ภายใต้โครงสร้างองค์กรใหม่ ผ่าน 4 กลุ่มธุรกิจหลักที่แข็งแกร่ง”

ทั้งนี้ 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่

  • RS Music ประกอบด้วย 4 ค่ายเพลง ได้แก่ BRIQ ENTERTAINMENT, RSIAM, COOL Music และ FASH คอมมูนิตี้สำหรับแฟนเพลง ได้แก่ kamikaze และ RS Friends, สถานีเพลง COOLfahrenheit, RS Showbiz และจัดเก็บลิขสิทธิ์ไทย (TCC) ภายใต้การบริหารของ นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ที่พร้อมจะนำกลยุทธ์ในการสร้างรายได้ที่มาจากหลากหลายช่องทาง เพื่อนำ RS Music เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปี 2568 รวมไปถึงความร่วมมือกับ ยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ป ที่จะขยายฐานรายได้จัดเก็บลิขสิทธิ์จากช่องทางดิจิทัล ทั้งแพลตฟอร์มสตรีมมิง และโซเชียลมีเดีย รวมถึงเดินหน้าสร้างการเติบโตร่วมกันกับพันธมิตรทุกค่ายเพลงชั้นนำ เพื่อเป็นการยกระดับวงการเพลงในทุกๆ ด้าน รวมถึงเปิดโอกาสไปตลาดต่างประเทศ
  • RS Multimedia & Entertainment ปรับโครงสร้างใหม่ที่ข้ามขีดจำกัดของดิจิทัล ทีวี แบบไม่จำกัดแพลตฟอร์มและตลาดในประเทศเท่านั้น อีกทั้งยังเปิดโอกาสความร่วมมือจากพันธมิตรในหลากหลายรูปแบบ ที่ไม่เพียงแค่ผลิตรายการและกิจกรรมเพื่อช่อง 8 แต่ยังขยายสู่ธุรกิจอื่นๆ เพื่อสร้างรายได้ในธุรกิจใหม่ๆ โดยแบ่งออกเป็น 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่ RS Broadcast ธุรกิจที่ผลิตคอนเทนต์หลากหลายทั้ง รายการข่าว, ซีรีส์, วาไรตี้ และกีฬา ออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์ช่อง 8, RSDG ออนไลน์ Entertainmerce เต็มรูปแบบ ตอบโจทย์ความบันเทิง และไลฟ์สไตล์ ทั้งคอนเทนต์, คอมเมิร์ซ และ คอมมูนิตี้ของกลุ่ม New Gen, RS MultiX – Entertainment promoter ที่สร้างสรรค์ประสบการณ์ความสนุก ความหลากหลาย เพื่อทุกไลฟ์สไตล์ในโลกของประสบการณ์ความบันเทิงที่ไร้พรมแดน และ Rose Studio ธุรกิจที่สร้างสรรค์คอนเทนต์ ละคร และซีรีส์ เพื่อเผยแพร่ผ่านทางทีวีดิจิทัลและแพลตฟอร์ม OTT นำทีมบริหารโดย นางสาวนงลักษณ์ งามโรจน์
  • RS LiveWell เป็น Product Company ที่มีความโดดเด่นแตกต่างด้วยแพลตฟอร์มขายสินค้าของตนเองที่ครบทุกทัชพอยท์ โดยมีสินค้า House Brands ประกอบไปด้วยแบรนด์ well u, vitanature+, DARING & CO., aviance, Beyonde, iFresh, Happie Homie และ Erb และจำหน่ายสินค้าทั้งหมดผ่านทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง RS Mall ซึ่งมีทั้งออนแอร์, ออนไลน์ และเทเลเซลล์ และ ULife ที่การขายสินค้ารูปแบบ Subscription Model รวมไปถึงการจำหน่ายสินค้าผ่านดิจิทัลทีวีพันธมิตร อาทิ Workpoint TV – Amarin TV – ไทยรัฐ TV และยังมีช่องทางอื่นๆ เช่น ร้านโมเดิร์นเทรด ซูเปอร์มาร์เก็ต และออนไลน์ มาร์เก็ตเพลส ภายใต้การบริหารงานของ นางสาววรัญญา ราชพลสิทธิ์ ที่จะยกระดับการสร้าง แบรนด์ และขยายสู่ช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ๆ จึงนับเป็นปีแห่งการ synergy จากผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์มช่องทางการขายที่แข็งแกร่งทั้งกลุ่ม อาร์เอส รวมศูนย์ภายใต้ RS LiveWell เพื่อสร้างความสมบูรณ์ให้แก่ Commerce ecosystem โดยใช้ทรัพยากรภายในกลุ่มให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างเต็มที่ เพิ่มความหลากหลายของสินค้า ขยายฐานลูกค้า และนำไปสู่การสร้างรายได้ที่เติบโตมากขึ้น
  • RS pet all ธุรกิจครบวงจรสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ แบ่งเป็น 3 ธุรกิจย่อย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง ภายใต้แบรนด์ Lifemate, HATO VETERINARY SELECT และ Jungle Monster Thailand นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจเซอร์วิส ภายใต้แบรนด์ HATO Pet Wellness Center และโรงพยาบาลสัตว์ HATO และธุรกิจรีเทลช็อป ภายใต้แบรนด์ PET ALL MY LOVE นำทีมบริหารโดย นางสาวสุชาดา ธีรวชิรกุล ซึ่งในปีนี้ยังมีอีกหลายโปรเจกต์ให้ติดตามทั้งการขยายสาขา PET ALL MY LOVE ให้ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล การสร้างโรงพยาบาลสัตว์ และเพิ่มสาขา ของ HATO Pet Wellness Center ด้วย ขณะที่ Lifemate ดำเนินธุรกิจเข้าสู่ปีที่ 3 มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และได้รับความนิยมจากผู้บริโภค จนสามารถสร้างรายได้ตามเป้าหมาย

ด้าน คุณวิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน เผยว่า “ในปีที่ผ่านมา เป็นปีแห่งการสร้างความแข็งแกร่งให้แต่ละธุรกิจ เติมเต็ม Ecosystem ให้มีความสมบูรณ์ ทั้งการปรับผังข่าวครั้งใหญ่ของ ‘สถานีโทรทัศน์ ช่อง 8’ ด้วยการดึง “พุทธ อภิวรรณ” นั่งแท่นผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายข่าวและผู้ประกาศข่าว พร้อมทำรายการใหม่ “ลุยชนข่าว” ส่งผลให้เรตติ้งช่อง 8 กลับมาคึกคักอีกครั้ง การจัดตั้งกิจการร่วมค้า ‘อะครอส เดอะ ยูนิเวิร์ส’ (ACROSS THE UNIVERSE JOINT VENTURE) กับ GRAMMY Music (แกรมมี่ มิวสิค) ในการร่วมกันจัดคอนเสิร์ต GRAMMY RS รวม 3 คอนเสิร์ต ที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี การจัดตั้งกิจการร่วมค้า (Joint Venture) กับพาร์ทเนอร์ค่ายเพลงชั้นนำอันดับหนึ่งของโลกอย่าง ยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ป เพื่อบริหารลิขสิทธิ์เพลงร่วมกัน ซึ่งเป็นการกลับมารุกธุรกิจเพลงของ อาร์เอส อย่างจริงจังอีกครั้ง การเข้าลงทุนใน บริษัท ฮาโตะ เพ็ท เวลเนส เซ็นเตอร์ จำกัด (Hato Pet Wellness Center) เพื่อเติมเต็ม Ecosystem ของธุรกิจสัตว์เลี้ยงที่มีอยู่ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น รวมไปถึงการเปิด PET ALL MY LOVE เพ็ทรีเทลสาขาแรก ที่ครบครันด้วยสินค้าสัตว์เลี้ยงของแท้จากทั่วโลก ส่งท้ายปลายปีด้วยการเข้าลงทุนในบริษัท เอิบเอเชีย จำกัด หรือ Erb แบรนด์เครื่องหอมและสกินแคร์อันดับต้นๆ ของไทย ในสัดส่วน 60% นอกจากนี้ เรายังประสบความสำเร็จในการนำ เชฎฐ์ เอเชีย เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ช่วงต้นปี 66 ที่ผ่านมา สำหรับในปีนี้ อาร์เอส กรุ๊ป จะดึงศักยภาพของแต่ละธุรกิจมาสนับสนุนซึ่งกันและกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามกลยุทธ์ Unlock Value ด้วยการบริหารการขายทุกสื่อโฆษณาให้มารวมศูนย์อยู่ภายใต้สายงานการตลาดและขายสื่อโฆษณา (Media sales and Marketing) ซึ่งคาดว่าจะผลักดันรายได้ปี 2567 ให้ไปสู่เป้าหมายที่ 4,400 ล้านบาท โดยมาจากธุรกิจมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนท์ 2,350 ล้านบาท และจากธุรกิจคอมเมิร์ซ 2,050 ล้านบาท”

“เพื่อยกระดับความเข้มข้นในการบริหารงานในปีนี้ อาร์เอส กรุ๊ป จะโฟกัสไปที่กลุ่มธุรกิจมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนท์ และกลุ่มธุรกิจคอมเมิร์ซ ที่มีช่องทางการขายเป็นของตนเอง โดยผู้บริหารทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ จะดึงศักยภาพและจุดเด่นของแต่ละกลุ่มธุรกิจมาต่อยอด จับมือกันเพื่อสร้างแต้มต่อให้กับ อาร์เอส ทั้งนี้ ผู้บริหารจะรับผิดชอบและมีบทบาทหน้าที่ในการกำหนดเป้าหมายเชิงลึก และเพิ่มศักยภาพในการบริหารทีมงานอย่างอิสระ ซึ่งเป็นการสร้างความคล่องตัวและเพิ่มความยืดหยุ่นในการไปสู่เป้าหมายขององค์กร ภายใต้กลยุทธ์ที่กว้างและหลากหลาย ส่งเสริมให้โมเดล Entertainmerce เติบโตแข็งแกร่งขึ้นทั้งในแนวตั้งและแนวราบ” คุณสุรชัย กล่าวปิดท้าย

ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสาร และความเคลื่อนไหวต่างๆ ของ อาร์เอส กรุ๊ป ได้ทาง www.rs.co.th และ https://www.facebook.com/RSGROUPOFFICIAL